เวนิส หรือชาวอิตาลีเรียกอีกชื่อว่า เวเนเซีย ประกอบด้วยเกาะเล็กๆจำนวน 118 เกาะเชื่อมกัน ซึ่งเป็นจุดมุ่งหมายของนักท่องเที่ยวหลายๆคนเพราะมันเป็นเมืองแห่งสายน้ำที่มีเสน่ห์เอาซะมากๆแล้วเหมาะกับการมาฮันนีมูนสุดๆ
สัญลักษณ์สำคัญของ เวนิส นั้นก็คือการใช้เรือในการคมนาคมในเมือง เพราะลำคลองนั้นมีมากกว่าถนนเสียอีก
และแลนมาร์คสำคัญอีกที่หนึ่งก็ไม่พ้น มหาวิหารซานมาร์โค (St.Mark’s Basilica) ที่เรากำลังจะนั่งเรือไปลงที่ท่าซานมาร์โคกันนี่แหละ ไปชมรูปกันเถอะอย่าเสียเวลาเลย
ตอนนี้อยู่ที่ฝั่งของเมืองเวนิส มาถึงประมาณ 9 โมงเช้าแดดกำลังดีแต่ไม่ร้อนครับ อากาศเย็นฉะนั้นยืนสู้แดดได้สบายๆ น้ำไม่ถึงกับใสมากแต่มองไปก็เป็นสีฟ้ามรกต
สภาพเพื่อนๆบนเรือระหว่างทางไปเกาะ ไม่ได้เมาเรือนะแต่แฮงค์มาจากเมื่อคืนกัน จัดหนักกันไปนิดนึงพอกรุบกริบ
ตอนนี้ก็มาถึงท่าเรือซานมาร์โคแล้ว ท้องฟ้าเปิดสดใสพร้อมลุยกับเมืองเวนิสแล้วล่ะ
ตรงนี้คือจตุรัสซานมาร์โค แลนด์มาร์คสำคัญของเกาะเวนิสเลย เป็นลานกว้างๆโอบล้อมด้วยสิ่งปลูกสร้างที่มีเอกลักษณ์เฉพาะของที่นี่ มีรูปปั้นมากมายที่เล่าเรื่องราวของเมืองนี้ในอดีต
จากที่เดินถ่ายรูประหว่างทางเราก็มาขึ้นเรือกอนโดลา ที่เป็นสัญลักษณ์ของที่นี่และชาวเมืองใช้ในการคมนาคมระหว่างเกาะ โดยจะมีคนยืนพายเรือร้องเพลง ค่าใช้จ่ายในการขึ้นเรือกอนโดลาทัวร์ในเวนิสอยู่ที่ 90 ยูโร ประมาณ 3100 บาท สามารถโดยสารได้จำนวน 6 คน ก็หารๆกันไปคนละไม่เท่าไหร่แลกกับรูปวิวที่ได้มามันช่างคุ้มเอามากมาย
และอีกอย่างหนึ่งสำหรับสาย Shopping ที่นี่มีร้านแบรนด์เนมดังๆแนวหน้ามากมายให้เลือกสรรค์กันเยอะและก็ราคาถูกกว่าที่บ้านเราระดับหนึ่ง ใครมาสายนี้ก็ไม่ควรพลาดนะ
เมื่อเราเดินถ่ายรูป นั่งเรือชมเมือง ชอปปิ้งเสร็จ ก็ถึงเวลาทานอาหาร เรามาที่ร้านนี้ TAVERNA dei DOGI อยู่ในตรอกซอยข้างๆคุก ห้องน้ำที่นี่มันแพงนัก 1.50 ยูโร ประมาณ 52 บาท แม่เจ้า ข้างทางเลยดีกว่า
อาหารมื้อเที่ยงก็ที่พลาดไม่ได้คือ สปาเกตตี้หมึกดำ กลิ่นหอมๆแต่ส่วนตัวคิดว่ามันจืดไปนิดคนบ้านเราน่าจะไม่ปลื้มเท่าไหร่ ส่วนอีกหนึ่งเมนูก็คือสลัดผักทานคู่กับอาหารทะเลทอดกรอบ พอกินได้ แต่ก็ไม่สุดอยู่ดี ฮ่าๆๆ
สุดท้ายก็ขอลาไว้แต่เพียงเท่านี้ เวนิส หรือ เวเนเซีย เป็นเมืองอีกเมืองที่สวยมากถ้ามาเที่ยวจะลืมเวเนเซีย หัวหินไปเลย มันคนละฟีลลิ่งอย่างแท้จริง ลองหาโอกาสมากันให้ได้นะ แล้วเจอกันใหม่ บะบายย